วันเสาร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

แผนการจัดการ KMในสถานศึกษา

โรงเรียนวิมลพณิชยการ  ศรีย่าน
แผนการการจัดการความรู้(Knowledge Management Action Plan)

สำนักนโยบายและแผนพัฒนา

แผนงานพัฒนา  :  ระบบสารสนเทศและการจัดการความรู้เพื่อพัฒนาสถานศึกษา

มาตรฐานที่ 6  :  ข้อกำหนด 6.3 การจัดระบบสารสนเทศและการจัดการความรู้เพื่อพัฒนาสถานศึกษาอย่างเหมาะสม

ตัวบ่งชี้ที่ 34  :  ระดับคุณภาพของการจัดระบบสารสนเทศและการจัดการความรู้ของสถานศึกษา

ตัวชี้วัด(KPI)  :
            1.  จัดระบบสารสนเทศการจัดการความรู้(KM) ของโรงเรียน
            2.  มีการเผยแพร่ความรู้ที่ได้จากการศึกษา/อบรม/สัมมนาให้กับเพื่อนร่วมงาน
            3.  จัดให้มีระบบสารสนเทศการจัดการความรู้ของภาควิชา/สาขาวิชาที่เปิดสอนในโรงเรียน
เป้าหมายของตัวชี้วัด (KPI)
            1.อย่างน้อย 1 โครงการต่อปีการศึกษา
            2.มากกว่า 1 เรื่อง/คน/ปี
            3.ทุกภาควิชา/สาขาวิชา มีระบบสารสนเทศการจัดการความรู้

ลำดับที่
กิจกรรม KM
ระยะเวลา
ตัวชี้วัด(KPI)
เป้าหมาย
กลุ่มเป้าหมาย
ผู้รับผิดชอบ
1
จัดตั้งคณะกรรมการจัดการความรู้ของภาควิชา/สาขาวิชา
ต.ค. 51
มีคณะกรรมการจัดการความรู้ของภาควิชา/สาขางาน
คณะกรรมการ 3ชุด
อาจารย์ประจำภาควิชา/สาขาวิชา
งานพัฒนาหลักสูตร/หัวหน้าภาควิชา
2
การบ่งชี้ความรู้
-           รวบรวมรายวิชาชีพ เฉพาะสาขาตามหลักสูตร
ธ.ค. 51
สรุปเป็นรายวิชาตามหลักสูตร/สาขาวิชา
1 ฉบับ
หลักสูตรภาควิชา/สาขาวิชา
-  งานพัฒนาหลักสูตร
-  หัวหน้าภาควิชา
3
การสร้างและแสวงหาความรู้
-          รวบรวมความรู้วิชาเฉพาะจากอาจารย์ที่ได้รับการอบรม/สัมมนา/ศึกษาดูงาน
มี.ค. 52
มีรายงานสรุปผลการศึกษาดูงาน/การอบรม/สัมมนา
1 ฉบับ
อาจาย์ทุกท่าน
งานบุคลากร
4
การจัดการความรู้ให้เป็นระบบ
-          รวบรวมแนวคิดทฤษฎี ความรู้ที่จำเป็นและเกี่ยวกับรายวิชาต่างๆ จัดทำเป็นทะเบียนความรู้/คลังความรู้บันทึกในระบบสารสนเทศของ KM
ก.ค. – ต.ค. 52
มีรายงานความรู้ที่ได้รับรวบรวมและคัดสรรตามภาควิชา/สาขาวิชา
1 ฉบับ
อาจารย์ทุกท่าน
ทีม KM /งานพัฒนาหลักสูตร
5


ลำดับที่
การประมวลและกลั่นกรองความรู้

กิจกรรม KM
พ.ย. 52


ระยะเวลา
มีผู้เชี่ยวชาญประมวลและกลั่นกรองความรู้

ตัวชี้วัด(KPI)
อย่างน้อย 3 คน


เป้าหมาย
ผู้เชี่ยวชาญ


กลุ่มเป้าหมาย
ทีม KM /งานสารสนเทศ

ผู้รับผิดชอบ
6
การเข้าถึงความรู้
-          จัดประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้
-          แลกเปลี่ยนเรียนรู้ผ่านทาง website และศูนย์ KM ของโรงเรียน
ธ.ค. 52
-  จำนวนครั้งของการแลกเปลี่ยนเรียนรู้
อย่างน้อย 1 ครั้ง

บุคลากรทุกคน


ทีม KM/งานสารสนเทศ
-  จำนวนอาจารย์ที่เข้าร่วมกิจกรรมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผ่าน website และศูนย์ KM ของโรงเรียน
ครูอาจารย์ทุกคน

บุคลาการทุกคน
ทีม KM/งานสารสนเทศ
7
การเรียนรู้
-          อาจารย์ทุกภาควิชา/สาขาวิชานำความรู้ไปพัฒนาศักยภาพการเรียนการสอน การวิจัย การบริการวิชาการ/วิชาชีพ เพิ่มมากขึ้น
มี.ค. 53
มีการบูรณาการการเรียนการสอน การวิจัย และการบริการวิชาการ/วิชาชีพ
อย่างน้อย 1 โครงการต่อปี



อาจารย์ทุกท่าน



ทีม KM
มีการเผยแพร่ความรู้ที่ได้จากการศึกษา อบรม/สัมมนาให้กับเพื่อนร่วมงาน
อย่างน้อย 1 เรือง/คน/ปี


  ผู้จัดทำ                                                                                                                        ผู้อนุมัติ

                   (นายบัญญัติ    ลาชโรจน์ )                                                                                                (นางนันทพร    ชูทรัพย์)
                           รองผู้อำนวยการ                                                                                                         ผู้อำนวยการ
    ประธานคณะกรรมการการจัดการความรู้

วันพุธที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2553

การเขียนโครงการ


วิธีการเขียนโครงการ


บัญญัติ ลาชโรจน์*



โครงการ หมายถึง การวางแผนล่วงหน้าที่จัดทำขึ้นอย่างมีระบบ ประกอบด้วยกิจกรรมย่อยหลายกิจกรรมที่ต้องใช้ทรัพยากรในการดำเนินงาน และคาดหวังที่จะได้ผลตอบแทนอย่างคุ้มค่า แต่ละโครงการมีเป้าหมายเพื่อการผลิตหรือการให้บริการเพื่อเพิ่มพูนสมรรถภาพของแผนงาน การเขียนโครงการจึงเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของการวางแผนที่จะทำให้องค์กรบรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมาย



ลักษณะของโครงการที่ดี

1. สามารถแก้ปัญหาขององค์กรหรือหน่วยงานนั้น ๆ ได้

2. มีรายละเอียด วัตถุประสงค์เป้าหมายต่าง ๆ ชัดเจน สามารถดำเนินงานได้

3. รายละเอียดของโครงการมีความต่อเนื่องและมีความสัมพันธ์สอดคล้องกัน

4. ตอบสนองความต้องการขององค์การหรือสถานศึกษาตามแผนพัฒนาขององค์การหรือ สถานศึกษา

5. ปฏิบัติแล้วสอดคล้องกับแผนงานหลักขององค์กรหรือดัชนีชี้วัดตามแผนกลยุทธ์

6. เป็นโครงการที่มีข้อมูลความจริงและเป็นข้อมูลที่ได้รับการวิเคราะห์อย่างรอบคอบ

7. ได้รับการสนับสนุนจากผู้บริหารทุกด้าน โดยเฉพาะด้านทรัพยากรที่จำเป็น

8. มีระยะเวลาในการดำเนินงานแน่นอน ระบุวันเวลาเริ่มต้นและสิ้นสุด

9. สามารถติดตามประเมินผลได้และดำเนินการครบวงจร PDCA



ขั้นตอนการเขียนโครงการ

1. วิเคราะห์ปัญหาหรือความต้องการ ดำเนินการโดย

- ศึกษาสภาพแวดล้อมเพื่อค้นหาปัญหาและเหตุที่ต้องพัฒนา

- กำหนดแนวทางแก้ไข

- กำหนดสภาพและผลสัมฤทธิ์ของโครงการ

2. เขียนโครงการ โดยมีเทคนิค ดังนี้

2.1 ก่อนลงมือ ต้องตั้งคำถามและตอบคำถาม( 6 W +1H)

2.1.1 W1 = WHO หมายถึง คำถาม “ใครเป็นผู้ดำเนินโครงการ”

2.1.2 W2 = WHAT หมายถึง คำถาม “จะทำกิจกรรมอะไรบ้าง”

2.1.3 W3 = WHEN หมายถึง คำถาม “จะทำเมื่อไหร่”

2.1.4 W4 = WHERE หมายถึง คำถาม “จะทำที่ไหน”

2.1.5 W5 = WHY หมายถึง คำถาม “จะทำโครงการนี้ไปทำไม”

2.1.6 W6 = TO WHOM หมายถึง คำถาม “ใครเป็นผู้ได้รับประโยชน์”

2.1.7 H1 = HOW หมายถึง คำถาม “จะทำโครงการอย่างไร”

2.2 ศึกษาและการคัดเลือกโครงการที่จะทำ

2.3 ลงมือเขียนโครงการ โดยใช้ภาษาเขียนที่กระชับ เป็นไปได้และสื่อความหมายได้ชัดเจน



การเขียนโครงการ



การเขียนโครงการจะต้องประกอบด้วย

1. ชื่อโครงการ เป็นการระบุเพื่อให้ทราบถึงแนวทางปฏิบัติและการคาดหวังผลตอบแทนที่สืบเนื่องจากการปฏิบัติโครงการตลอดจนทิศทางของการดำเนินโครงการนั้น

2. ระบุแผนงาน………………………………………………………….

3. ลักษณะโครงการ…………………………………..

4. สอดคล้องกับมาตรฐานที่……..ตัวบ่งชี้ที่………..

5. ที่ปรึกษาโครงการ

6. ผู้อำนวยการโครงการ

7. ผู้รับผิดชอบโครงการ

8. หลักการและเหตุผล เป็นการระบุถึงสภาพปัญหาและความจำเป็นในการจัดทำโครงการขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว

9. วัตถุประสงค์โครงการ เป็นการแสดงให้เห็นถึงสิ่งหรือผลงานที่เป็นจุดหมาย

ปลายทางที่ต้องการจะให้เกิดขึ้นจาการปฏิบัติงานนั้น การกำหนดวัตถุประสงค์ที่ดีจะต้องปฏิบัติได้ และไม่ควรมากกว่า 3 ข้อ การกำหนดวัตถุประสงค์ที่ดีควรประกอบด้วยองค์ประกอบที่“SMART”คือ

1. S = Sensible (มีความเป็นไปได้) วัตถุประสงค์ที่ดีต้องมีความเป็นไปได้

2. M = Measurable (สามารถวัดและประเมินได้) วัตถุประสงค์ที่ดีจะต้องสามารถวัดและ

ประเมินผลได้

3. A = Attainable (ระบุสิ่งที่ต้องการชัดเจน) วัตถุประสงค์ที่ดีจะต้องระบุสิ่งที่

ต้องการดำเนินงานอย่างชัดเจนและเฉพาะเจาะจงมากที่สุด

4. R = Reasonable (เป็นเหตุเป็นผลในการปฏิบัติงานของโครงการ) วัตถุประสงค์

ที่ดีต้องมีความเป็นเหตุเป็นผลในการปฏิบัติงาน

5. T = Time (ระยะเวลาในการดำเนินโรงการ) วัตถุประสงค์ที่ดีต้องมีขอบเขตของ

เวลาที่แน่นอนในการปฏิบัติงาน

10. เป้าหมาย

9.1 เป้าหมายเชิงปริมาณ ระบุจำนวนให้ชัดเจนว่าใครเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์หรือผลดี จากโครงการนี้

9.2 เป้าหมายเชิงคุณภาพ ระบุกลุ่มเป้าหมายว่า ใครคือผู้ที่จะได้รับผลดีอะไรบ้างจากโครงการนี้


11. สถานที่ดำเนินการ ระบุสถานที่ดำเนินการโครงการ ระบุพื้นที่ที่จะทำโครงการ โดยระบุ

หมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัด


12. ระยะเวลาดำเนินการโครงการ เป็นการกำหนดช่วงเวลาในการปฏิบัติโครงการตั้งแต่

ระยะ เริ่มต้นปฏิบัติโครงการจนถึงการสิ้นสุดโครงการนั้น

13. วิธีดำเนินการ ควรแสดงถึงกิจกรรมและกระบวนการปฏิบัติงานที่สอดรับกับวัตถุประสงค์ แสดงรายละเอียดกิจกรรมเพียงพอ และมีกำหนดระยะเวลาของแต่ละกิจกรรมที่สมเหตุสมผล และควรมีกิจกรรมต่อเนื่อง หากเป็นโครงการที่มีการฝึกอบรม ดูงาน จะต้องมีกิจกรรมต่อเนื่องที่จะส่งผลกำหนดการการฝึกอบรม หัวข้อที่จะฝึกอบรม


การเขียนวิธีดำเนินการ ให้จัดทำ GANTT CHARNT แจกแจงกิจกรรมที่จะดำเนินการตามลำดับดังนี้


 14. หน่วยงานที่ให้การสนับสนุน เป็นหน่วยงานที่ให้การสนับสนุนและประสานงานขอความ ร่วมมือกับหน่วยงานนั้นเพื่อให้โครงการบรรลุวัตถุประสงค์ตามที่กำหนดไว้


15. งบประมาณ งบประมาณหรือค่าใช้จ่ายของโครงการนับเป็นทรัพยากรที่สำคัญต่อการ

ปฏิบัติโครงการ โดยทั่วไปมีองค์ประกอบ ดังนี้

15.1 ได้รับการสนับสนุนจาก สถานศึกษาหรือองค์การต้นสังกัด

จำนวน…………บาท (…………………………………….)

15.2 ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานหรืออง๕กรภายนอก

จำนวน…………… บาท (………………………………..)

15.3 รวมงบประมาฯดำเนินการทั้งหมด

จำนวน………………….บาท (………………………………..)

15.4 แสดงค่าใช้จ่ายของแต่ละกิจกรรมและแต่ละช่วงเวลาพร้อมทั้งรายละเอียด

ค่าใช้จ่ายทั้งหมดจนจบโครงการ

16. การประเมินโครงการ เป็นกระบวนการในการเก็บรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลของ

การดำเนินโครงการและพิจารณาจากวัตถุประสงค์ของโครงการ ปัญหาและอุปสรรค์

ในการดำเนินงานและผลสัมฤทธิ์ของโครงการ







17. ผลที่คาดว่าจะได้รับ เป็นผลที่เกิดขึ้นจากการที่โครงการบรรลุวัตถุประสงค์ ผลที่

เกิดขึ้นจากการปฏิบัติโครงการ สามารถแสดงให้เห็นผลที่เป็นประโยชน์ทางตรง

และทางทางอ้อม










วันศุกร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2553

*-*


การเลี่ยนแปลง(changes)

                                       การเปลี่ยนแปลง ( Change )




                                      Jack Welch กล่าวว่า



                        - จงคิดว่าการเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่ดีอยู่เสมอ

                        - การเปลี่ยนแปลงเป็นการสร้างโอกาส (ไม่ใช่วิกฤติที่สร้างโอกาสให้เรา)

                          - การเปลี่ยนแปลงเป็นพลังที่กระตุ้นตนและองค์การได้

                          - อย่าไปคิดต่อต้านการเปลี่ยนแปลง ไดโนเสาร์สูญพันธ์เพราะปรับตัวเข้ากับสิ่งแวด
                             ล้อมใหม่ไม่ได้

                           - บริษัทที่ล้มในยุค IMF เพราะปรับตัวเข้ากับสภาพการแข่งขันแบบโลกาภิวัฒน์ไม่ได้
                              แต่โปรดระวังการปรับตัวผิดงานและไม่สอดคล้องจะยิ่งเจ็บมากขึ้น





                                         การประเมินทีมงาน



                                    - มีคุณค่าและสร้างงาน - จงส่งเสริงเขา

                                   - ไม่มีคุณค่าและไม่สร้างงาน - จงยิ่งเขาให้ตาย

                                     - มีคุณค่าและไม่สร้างงาน - จงเอาเขาไปทำงานอื่น

                                     - ไม่มีคุณค่าแต่สร้างงาน - บีบเขาให้ลาออกไป